Archive

Posts Tagged ‘apple’

แกะกล่อง iPhone 4 โชว์ตัวก่อนออกขายจริงเร็วๆนี้

กรกฎาคม 20, 2010 ใส่ความเห็น

Hardware

หน้า ตาของ iPhone 4 แม้จะมีหน้าตาคล้ายกับ iPhone รุ่นก่อนหน้านี้ แต่อย่างไรก็ตาม Apple ได้ทำการออกแบบเครื่องใหม่หมดจด การออกแบบครั้งนี้ดูหน้าตาจะออกไปแนวคล้ายๆกับแนวของ กล้อง Leica รุ่นคลาสสิค เน้นวัสดุที่ดูมีเกรดมากขึ้น ออกแบบทรวดทรงที่เรียบง่าย กระจกสองแผ่นปิดหน้าปิดท้าย และล้อมตัวเครื่องด้วย แสตนเลส ซึ่งเป็นการออกแบบที่ฉลาดกว่าเดิม เพราะเค้าจะใช้ส่วนของสแตนเลสรอบตัวทำหน้าที่เป็นเสาอากาศในการรับสัญญาณไป ในตัว  ปุ่มปรับระดับเสียงเปลี่ยนหน้าตาใหม่ ดูโบราณกว่าเดิม แต่คลาสสิคมากขึ้น เพราะเป็นปุ่มกลมๆสองปุ่มยื่นออกมานอกตัวเครื่องแบบง่ายๆ  ตัวเครื่อง iPhone 4 มีความบางมากกว่ารุ่น 3Gs อย่างเห็นได้ชัด โดยมีขนาดความบางเพียง 0.37 นิ้ว ซึ่งหากเป็น 3Gs จะมีขนาดความหนาที่ 0.48 นิ้ว โดยน้ำหนักตัวเครื่องบยังคงไม่แตกต่างจากเดิม  แน่นอนอครับว่าโดยรวมๆแล้ว iPhone4 แม้จะมีหน้าตาคล้ายๆเดิมแต่ความสามารถนั้นมากขึ้น วัสดุการออกแบบที่ Apple เลือกใช้นั้นดูหรูหราขึ้นมาก ซึ่งหากเทียบกับเครื่องหลายรุ่นในตลาดเวลานี้ iPhone4 ถือว่าเป็นเครื่องที่กล้าลงทุนกับตัววัสดุตัวเครื่อง ในขณะที่ยี่ห้ออื่นๆพยายามเน้นหันไปใช้วัสดุที่เกรดต่ำลง เช่นใช้พลาสติกเป็นส่วนใหญ่ เพื่อน้ำหนักที่เบา และลดต้นทุนการผลิต

ตัวเครื่องลักษณะการออกแบบจะคล้ายๆกับแซนวิสคือเป็นกระจกแบบแข็งประกบหน้า หลัง โดยวัสดุตัวกระจกนั้นทาง Apple ค่อนข้างภูมิอก ภูมิใจ ว่าเป็นกระจกชนิดแข็งซึ่งมีทนแรงกดได้มากกว่าพลาสติกทั่วไปถึง 30 เท่า แม้ว่าบางเว็บไซด์ได้มีการทดสอบทำเครื่องแบบตัวที่ใช้เป็นอะไหล่ตกพื้นแล้ว ปรากฎว่ากระจกแตกก็ตาม  ปุ่มต่างๆของ iPhone 4 มีการปรับปรุงออกแบบให้ผู้ใช้เกิดความรู้สึกในการกดมากกว่า เดิม เหมือนมีการตอบเวลากดคลิกที่ปุ่มทุกครั้ง โดยยังคงรูปแบบปุ่มต่างๆให้ดูกลมกลืนไปกับตัวเครื่องเหมือนเดิม ตำแหน่งการจัดวางปุ่มและช่องต่างๆค่อนข้างคล้ายกับ iPhone 3Gs ยกเว้นช่องใส่ Sim แบบ Micro Sim ที่ย้ายมาอยู่ด้านข้างทางขวาของตัวเครื่อง

ด้าน ล่างจะมี speaker, microphone, และ 30-pin dock connector port

ขุม พลัง iPhone 4

Apple ได้เปลี่ยนจาก Samsung ARM Cortex-A8 ในเครื่องรุ่น iPhone 3Gs มาใช้ A4 ในเครื่องรุ่นใหม่นี้ ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่ใช้ใน iPad ซึ่งเรื่อง Speed ความเร็วของตัว CPU นั้นเป็นเรื่องที่น่าแปลกที่ Apple ไม่เคยพูดออกมาเลย แต่จากการคาดเดาก็น่าจะอยู่ที่ความเร็วประมาณ 1GHz ตามกระแสนิยม ซึ่งจากการทดสอบโดยรวมๆแล้ว การทำงานของ iPhone4 นั้นทำงานได้รวดเร็วกว่า 3Gs อยู่พอสมควร ส่วนเรื่องของ RAM นั้น iPhone4  จะให้ Ram มาที่ 512 MB onboard ซึ่งจะต่างกับรุ่น 3Gs ที่ให้มาเพียง 256 MB  และส่วนเรื่อง Storage นั้นยังไม่สามารถเพิ่มเติมได้ แต่ก็ให้ความจุมาแบบเต็มอิ่มตั้งแต่ 16-32 GB

การออกแบบตัวเครื่องใหม่ทำให้ตัวเครื่องสามารถบรรจุ แบตเตอรี่ในขนาดที่ใหญ่ขึ้นได้ ทำให้การใช้งานในส่วนต่างๆของ iPhone 4 ทำงานได้นานกว่าเดิมต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตามเรื่องของแบตเตอรี่ก็ยังไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้เหมือนเดิม กล้องของ iPhone 4 จะมาพร้อมกับกล้องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยด้านหน้าจะเป็นกล้องแบบ VGA ส่วนกล้องหลังมาที่ความละเอียด 5 ล้านพร้อม LED Flash  ไมโครโฟนให้มาสองตัว เพื่อช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงจากเสียงรบกวนรอบข้าง  สิ่งที่แปลกใหม่อีกจุดก็คือ gyroscope ที่ทำงานได้ฉับไว ทันใจไม่แพ้กับ accelerometer โดยเป็นการทำงานแบบควบคู่กันเพื่อรองรับ App แปลกๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เรื่องของเสาอากาศรอบตัว เป็นประเด็นหนึ่งที่ถูกพูดกันมากเพราะ Apple เองออกแบบเรื่องนี้ได้ค่อนข้างฉลาดในการรับสัญญาณ UMTS, GPS, WiFi, Bluetooth โดยรอบตัวของ iPhone 4 คือเสาอากาศแบบสแตนเลส ขนาดใหญ่สองตัว ซึ่งจะทำให้การรับสัญญาณต่างๆทำได้ดีขึ้นมาก

สำหรับการแสดงผลหน้าจอ อันนี้ก็เด็ดสุดเช่นกันเพราะว่าหน้าจอรุ่นใหม่สามารถแสดงความละเอียดได้ถึง 4 เท่าที่ 960 x 640 พิกเซล  IPS display  326 pixels per inch ซึ่งทาง Apple เองเรียกการแสดงผลแบบใหม่นี้ว่า Retina Display  ที่เรต 326ppi ซึ่งเหนือกว่าสายตาของคนเราที่จะแยกความแตกต่างในความละเอียดขนาดนี้ได้ ซึ่งจะคล้ายๆกับเครื่อง iPad ที่เป็น IPS display โดยมีคอนทราสที่ 800:1  บนความใหญ่หน้าจอในขนาดเดิมๆที่ 3.5 นิ้ว

ช่อง เสียบ Micro SIM และเสาอากาศรอบตัว

ด้าน ขอบบนจะมีเพียง sleep button, headphone jack, และ noise-canceling microphone

ส่วน ด้านหลังมาแนวแบบเรียบง่าย เพราะจะมีเพียงกล้องขนาดคงามละเอียด 5 ล้านพิกเซลพร้อม LED Flash และตราโลโกของ Apple เท่านั้น

ปุ่ม ที่ออกแบบให้กดแล้วให้ความรู้สึกที่ดีกว่าเดิม

โบราณ หรือ คลาสสิค ต้องแล้วแต่มุมมอง

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : www.hitech.sanook.com

ชำแหละ ผ่า iPhone 4 หมดใส้หมดพุง

กรกฎาคม 20, 2010 ใส่ความเห็น

แป๊ปเดียว iPhone 4 ก็ ถูกชำแหละชำเรา เรียบร้อยแล้ว โดยทางเว็บไซด์ iPhone ชื่อดังอย่าง iFixit ได้ทำการปู้ยี้ปู้ยำเครื่อง iPhone 4 รุ่นล่าสุดเพื่อผ่าดูว่าข้างในมันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง ซึ่งก็เป็นที่ยืนยันแน่นอน แล้วว่า RAM ในเครื่องรุ่นนี้ให้มาที่ 512 MB เป็นสิ่งที่ Apple ไม่เคยอยากจะบอกมาก่อน  กระจกด้านหน้าแบบ Gorilla Grass ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่ง

สำหรับน๊อตสองตัวด้านล่างที่เป็นข่าวนั้นก็คือ น๊อตยึดตัวแผงวงจรด้านใน แบตเตอรี่มีขนาดใหญ่ขึ้น โดยใช้แบตเตอรี่ที่ความจุ 1420 mAh ช่องใส่ SIM ยังคงตต้องใช้ คลิบ จิ้มออกเหมือนเดิม ยังไม่มีกลไกในการดีดออกแต่อย่างใด

ทำ ในจีนนะจ๊ะ

ถอด สกรูด้านล่างออกก่อน

เปิด ฝาหลังได้แล้ว เห็นเสาอากาศ ในส่วนบริเวณขอบชัดเจน

3.7V 1420 mAh Li-Polymer battery

No EMI shield

iPhone 4’s vibrator  อยู่ที่นี่เอง ทางมุมบนขวา

ติดตามอ่านเพิ่มเติมได้ที่ : www.hitech.sanook.com

Apple iPhone 4

กรกฎาคม 20, 2010 ใส่ความเห็น

ลักษณะเด่นประจำรุ่นโทรศัพท์มือถือ

  • จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 640×960 Pixels (326 dpi : Retina Display : กว้าง 3.5 นิ้ว)
  • เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน (3-Axis Gyro Sensor)
  • เชื่อมต่อ Safari Web Browser ผ่านระบบ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS Class 10 พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
  • ฝาหลังแบบ Gollira Glass มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ พร้อมกรอบล้อมรอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel
  • กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมการถ่ายภาพวิดีโอ (720p : WXGA : 1280×720 Pixels : 30 fps)

รายละเอียดตัวเครื่องโทรศัพท์มือถือ

• ระบบสัญญาณ Dual Mode (WCDMA/GSM)

– WCDMA/HSDPA Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)

– GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)

– ใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM
• ขนาด 115.2×58.6×9.3 มิลลิเมตร
• น้ำหนัก 137 กรัม
• ชนิดจอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 640×960 Pixels (326 dpi : กว้าง 3.5 นิ้ว)

– มีความละเอียดคมชัดของการแสดงผลมากขึ้นเป็น 4 เท่าของ iPhone 3GS

– ความละเอียดระดับ 326 dpi หรือที่เรียกว่า Retina Display ช่วยให้สบายตามากกว่า

– แอปพลิเคชั่นเดิมสามารถนำมาใช้งานได้ทันที และจะมีการปรับความละเอียดคมชัดให้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ

– มีค่า Contrast Ratio ที่ 800:1

– มีเทคโนโลยีจอภาพแบบ IPS เช่นเดียวกันกับเครื่อง iPad

– เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน (3-Axis Gyro Sensor)

– ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)

– หน้าจอสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ (Scratch-Resistant Display)

– ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้

– ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
• ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion
• ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 300 ชั่วโมง
• ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 14 ชั่วโมง (GSM) หรือ 7 ชั่วโมง (WCDMA)
• ระยะเวลาการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 40 ชั่วโมง
• ประมวลผลการทำงานด้วย Apple A4 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz
• ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 4 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Mac OS)

– รองรับการเปิดใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน (Multi-Tasking)

– ผู้ใช้ iPhone 3G และ 3GS สามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้เป็น iOS4 ได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน เป็นต้นไป ส่วนผู้ใช้ iPhone 2G ไม่สามารถอัพเกรดได้
• หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB หรือ 32 GB
• หน่วยความจำสมุดโทรศัพท์ (ไม่จำกัดจำนวน)
• บันทึกข้อมูลการโทรอย่างละ 100 รายการ (โทรออก, รับสาย, ไม่รับสาย)

คุณสมบัติเกี่ยวกับข้อความ

• SMS (Short Messaging Service)
• MMS (Multimedia Messaging Service)
• Email (POP3, SMTP, IMAP4)

– รองรับการใช้งานระบบ Push Email
• ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (T9)

คุณสมบัติเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ

• HTML Browser (Safari Web Browser)

– รองรับแบนเนอร์โฆษณาแบบ iAds
• WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 b/g/n)
• HSDPA (7.2 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
• EDGE Class 10 (236.8 kbps)
• GPRS Class 10 (4+1/3+2 slots : 32 – 48 kbps)
• Bluetooth เวอร์ชัน 2.1

– รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
• USB Data Cable (USB เวอร์ชัน 2.0)
• ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)

– ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System)

– ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านโปรแกรม Google Maps

– โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
• ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
• รองรับการเชื่อมต่อแสดงผลผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ (TV Out)
• ค้นหาข้อมูลผ่านโปรแกรม Google Search, Yahoo และ Bing
• รองรับการใช้งาน Youtube
• โปรแกรม MobileMe สำหรับดึงข้อมูลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อีเมล, รายชื่อผู้ติดต่อ และปฏิทินนัดหมาย มาไว้ในเครื่อง

คุณสมบัติทั่วไป

• เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones

– รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3

– แสดงรูปภาพขณะมีสายเรียกเข้า (Photo Caller ID)

– ระบบสั่นในตัว
• นาฬิกาบอกเวลา
• ตั้งปลุก
• โปรแกรม Organizer
• ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
• เครื่องคิดเลข
• โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง
• โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ

– โปรแกรม iMovie
• โปรแกรมตัดต่อเสียง และวิดีโอ
• โปรแกรม iBooks
• เทคโนโลยี Noise Cancellation พร้อมไมโครโฟนสำหรับการสนทนาโดยเฉพาะ ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัดแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
• สั่งงานด้วยเสียง
• โทรออกด้วยเสียง
• Handsfree และ Speakerphone ในตัว

คุณสมบัติvอื่น ๆ

• ฝาหลังแบบ Gollira Glass มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้
• กรอบล้อมรอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และใช้งานเป็นเสารับสัญญาณในตัว
• กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels

– ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592×1944 Pixels

– เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside Illuminated Sensor

– ไฟแฟลชในตัว (LED Flash)

– ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 5 ระดับ (Digital Zoom)

– ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)

– ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)

– ถ่ายภาพวิดีโอ (720p : WXGA : 1280×720 Pixels : 30 fps)

– ไฟให้แสงสว่างสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ (LED Video Light)

– ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย และวิดีโอ
• กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง

– รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling บนระบบเครือข่ายแบบ WiFi (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
• เกมส์ในเครื่อง

– รองรับการควบคุมการเล่นเกมส์ด้วยการเคลื่อนไหว (Motion-Sensitive Gaming)
• มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ และ ขาว)
• เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010
• กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010 (สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อังกฤษ และญี่ปุ่น)

– สั่งจองล่วงหน้าได้ในวันที่ 15 มิถุนายน และรับของได้ในวันที่ 24 มิถุนายน

– ประเทศอื่นๆ อีก 18 ประเทศ สามารถสั่งจองได้ในเดือนกรกฎาคม และอีก 88 ประเทศทั่วโลก สามารถสั่งจองได้ในเดือนกันยายน
• ราคาเปิดตัว 199$ สำหรับ iPhone 4 ความจุด 16 GB และ 299$ สำหรับ iPhone 4 ความจุ 32 GB

ขอบคุณเนื้อหา และภาพประกอบ จาก Thaimobilecenter